๑. |
มูลนิธิฯ ได้รับการประกาศกำหนดให้เป็นองค์การหรือสถานสาธารณกุศลตามข้อ ๓ ของประกาศกระทรวงการคลัง ว่าด้วยภาษีเงินได้และภาษีมูลค่าเพิ่ม (ฉบับที่ ๒) เรื่อง กำหนดองค์การ สถานสาธารณกุศล สถานพยาบาล และสถานศึกษาตามมาตรา ๔๗ (๗) (ข) แห่งประมวลรัษฎากร และมาตรา ๓ (๔) (ข) แห่งพระราชกฤษฎีกาออกตามความในประมวลรัษฎากร ว่าด้วยการยกเว้นภาษีมูลค่าเพิ่ม (ฉบับที่ ๒๓๙) พ.ศ. ๒๕๓๔ ซึ่งแก้ไขเพิ่มเติมโดยพระราชกฤษฎีกาออกตามความในประมวลรัษฎากร ว่าด้วยการยกเว้นภาษีมูลค่าเพิ่ม (ฉบับที่ ๒๕๔) พ.ศ. ๒๕๓๕ ลงวันที่ ๑๒ ตุลาคม พ.ศ. ๒๕๓๕ ดังนั้น การบริจาคให้กับมูลนิธิฯ ผู้บริจาคมีสิทธิหักลดหย่อนในการคำนวณภาษีเงินได้บุคคลธรรมดา หรือถือเป็นรายจ่ายในการคำนวณภาษีเงินได้นิติบุคคลได้ ดังนี้ |
|
|
|
๑.๑ |
กรณีบุคคลธรรมดา เฉพาะการบริจาคเป็นเงินให้แก่มูลนิธิฯ ผู้บริจาคมีสิทธิ นำเงินบริจาคไปหักลดหย่อนในการคำนวณเงินได้สุทธิเพื่อเสียภาษีเงินได้บุคคลธรรมดาได้เท่าที่บริจาคแต่ต้องไม่เกินร้อยละ ๑๐ ของเงินที่เหลือหลังจากหักลดหย่อนตามมาตรา ๔๗ (๑) (๒) (๓) (๔) (๕) หรือ (๖) แห่งประมวลรัษฎากร แล้ว ทั้งนี้ ตามมาตรา ๔๗ (๗) (ข) แห่งประมวลรัษฎากร |
|
|
|
๑.๒ |
กรณีบริษัทหรือห้างหุ้นส่วนนิติบุคคล บริจาคเงินหรือทรัพย์สินให้แก่มูลนิธิฯ เข้าลักษณะเป็นรายจ่ายเพื่อการกุศลสาธารณะ บริษัทหรือห้างหุ้นส่วนนิติบุคคลมีสิทธินำเงินหรือทรัพย์สิน ที่บริจาคมาหักเป็นรายจ่ายในการคำนวณกำไรสุทธิเพื่อเสียภาษีเงินได้นิติบุคคลในส่วนที่ไม่เกินร้อยละ ๒ ของกำไรสุทธิ ตามมาตรา ๖๕ ตรี (๓) แห่งประมวลรัษฎากร |
|
|
๒. |
หลักฐานการบริจาคเงินหรือทรัพย์สินตาม ๑. ให้ใช้บันทึกหรือหนังสือใดๆ ที่เป็นหลักฐานแสดงได้ว่าบริจาคเมื่อใด ผู้ใดบริจาค บริจาคแก่ผู้ใดและจำนวนเงินเท่าใด |