บริษัท A ซึ่งตั้งขึ้นตามกฎหมายไทย เพื่อบริหารกิจการโรงกลั่นน้ำมันของบริษัท B และโรงกลั่นน้ำมันของบริษัท C ตามข้อตกลงร่วมกันปฏิบัติการแบบพันธมิตร (Operation Alliance) ได้หารือเกี่ยวกับการคำนวณประโยชน์เพิ่มจากการได้อยู่บ้านที่นายจ้างให้อยู่โดยไม่เสียค่าเช่า สรุปข้อเท็จจริงได้ดังนี้
|
|
1. |
เนื่องจากธุรกิจโรงกลั่นน้ำมันเป็นธุรกิจที่จำเป็นต้องได้รับการควบคุมดูแลตลอด 24 ชั่วโมง บริษัท A ในฐานะผู้บริหารโรงกลั่นน้ำมันของ บริษัท C และ บริษัท B จึงได้จัดให้ผู้บริหารและเจ้าหน้าที่ระดับสูง มีที่อยู่อาศัยในพื้นที่ใกล้กับโรงกลั่นน้ำมัน เพื่อที่จะสามารถดำเนินการควบคุมดูแลโรงกลั่นน้ำมันหรือแก้ไขปัญหาทางเทคนิคได้ทันทีในกรณีฉุกเฉิน |
|
|
2. |
ในการจัดหาที่อยู่อาศัยแก่ผู้บริหารและเจ้าหน้าที่ระดับสูงดังกล่าว บริษัท C และ บริษัท B ได้ดำเนินการโดยแยกออกเป็น 2 กรณี ดังนี้ |
|
|
|
|
2.1 |
กรณีแรก บริษัท C และ บริษัท B ได้ก่อสร้างบ้านพักซึ่งเป็นกรรมสิทธิ์ของ บริษัท C และ บริษัท B ในบริเวณหมู่บ้าน "อีสเทิร์นสตาร์คันทรี่คลับ แอนด์ กอลฟ์รีสอร์ท" ในอำเภอบ้านฉาง จังหวัดระยอง |
|
|
|
|
2.2 |
กรณีที่สอง นอกจากบ้านพักที่ก่อสร้างเองดังกล่าวแล้ว บริษัท C และ บริษัท B ยังมีความจำเป็นต้องเช่าบ้านพักในหมู่บ้าน "อีสเทิร์นสตาร์คันทรี่คลับ แอนด์ กอลฟ์รีสอร์ท" ซึ่งเป็นหมู่บ้านเดียวกันกับบ้านพักที่ก่อสร้างเองอีกด้วย โดยบ้านเช่าดังกล่าว มีสภาพบ้านและขนาดใกล้เคียงกับบ้านพักที่ก่อสร้างเอง |
|
|
|
3. |
บริษัท A ได้หารือว่า ในการคำนวณมูลค่าของประโยชน์เพิ่มจากการได้อยู่บ้านที่นายจ้างให้อยู่โดยไม่เสียค่าเช่า นั้น สำหรับกรณีที่ บริษัท C และ บริษัท B เช่าบ้านจากบุคคลอื่น บริษัท C และ บริษัท B สามารถใช้หักค่าเช่าที่จ่ายไปจริง เป็นมูลค่าของประโยชน์เพิ่มที่ต้องนำมารวมคำนวณเป็นเงินได้ของพนักงาน และสำหรับกรณีที่ บริษัท C และ บริษัท B ก่อสร้างบ้านเอง นั้น เนื่องจากบ้านดังกล่าวเป็นบ้านที่มีสภาพและขนาดใกล้เคียงกับบ้านที่เช่า และอยู่ภายในหมู่บ้านเดียวกัน บริษัท C และ บริษัท B จะคำนวณมูลค่าของประโยชน์เพิ่ม โดยเทียบเคียงกับค่าเช่าที่ได้จ่ายไปตาม 2.2 ได้หรือไม่ |