News

รายได้ เงินได้จากการชิงโชค

เลขที่หนังสือ : กค 0702/8342
     
วันที่ : 12 ตุลาคม 2554
     
เรื่อง :

ภาษีเงินได้บุคคลธรรมดา กรณีมีเงินได้จากการชิงโชค

     
ข้อกฎหมาย : มาตรา 27 ตรี มาตรา 56 และคำสั่งกรมสรรพากร ที่ ท.ป.4/2528ฯ
     
ข้อหารือ :
1. นางสาว ก. ได้รับรางวัลจากการชิงโชคตามโครงการส่งเสริมการขายของศูนย์การค้า จำนวน ๑ ห้อง มูลค่า ๖,๖๐๐,๐๐๐.๐๐ บาท บริษัท A ได้มีหนังสือแจ้งให้นางสาว ก. ไปติดต่อรับรางวัลและจ่ายภาษีเงินได้หัก ณ ที่จ่าย จำนวน ๓๓๐,๐๐๐.๐๐ บาท โดยแจ้งว่า เมื่อได้ชำระภาษีเงินได้หัก ณ ที่จ่ายแล้ว บริษัท A จะแจ้งให้บริษัทฯ B เจ้าของโครงการอาคารชุด ค. ซึ่งเป็นผู้สนับสนุนโครงการส่งเสริมการขายของศูนย์การค้าสยามฯ ทำสัญญามอบรางวัลกับนางสาว ก. ต่อไป
     
2. เมื่อวันที่ ๘ กันยายน ๒๕๕๓ นางสาว ก. ได้ติดต่อขอรับรางวัลจากบริษัท Aโดยนางสาว ก. ได้รับใบเสร็จรับเงินแสดงว่า ได้รับเงินจากบริษัท A จำนวน ๖,๖๐๐,๐๐๐.๐๐ บาท ตามใบเสร็จรับเงินลงวันที่ ๘ กันยายน ๒๕๕๓ แต่ไม่ได้รับเงินรางวัลจริงและได้ชำระภาษีเงินได้หัก ณ ที่จ่าย ให้แก่บริษัท A จำนวน ๓๓๐,๐๐๐.๐๐ บาท ตามหนังสือรับรองการหักภาษีเงินได้หัก ณ ที่จ่าย ของบริษัท A ลงวันที่ ๙ กันยายน ๒๕๕๓
   
3. ต่อมาเมื่อวันที่ ๕ ตุลาคม ๒๕๕๓ บริษัท B ได้ทำสัญญามอบกรรมสิทธิ์ห้องชุดในโครงการอาคารชุด ซึ่งอยู่ระหว่างการก่อสร้าง ให้นางสาว ก. โดยตามสัญญาระบุว่า บริษัท B จะทำการก่อสร้างและดำเนินการจดทะเบียนอาคารชุดเพื่อออกหนังสือกรรมสิทธิ์ห้องชุดให้แล้วเสร็จในเดือนธันวาคม ๒๕๕๔ นางสาว ก. เห็นว่า ตนเองยังไม่มีเงินได้จากการชิงโชคในปี ๒๕๕๓ เพราะยังไม่ได้รับเงินรางวัลจริง หรือยังไม่ได้รับโอนกรรมสิทธิ์ในอาคารชุดซึ่งเป็นรางวัลจากการชิงโชค เพราะยังอยู่ในระหว่างการก่อสร้างและยังไม่มีหนังสือแสดงกรรมสิทธิ์ การที่ถูกหักภาษีเงินได้ ณ ที่จ่าย ในปี ๒๕๕๓ จำนวน ๓๓๐,๐๐๐.๐๐ บาทและต้องนำมูลค่าของรางวัลจากการชิงโชค จำนวน ๖,๖๐๐,๐๐๐.๐๐ บาท ไปคำนวณเพื่อเสียภาษีเงินได้บุคคลธรรมดาประจำปี ๒๕๕๓ เป็นการไม่ถูกต้อง ต่อเมื่อได้รับโอนกรรมสิทธิ์ในอาคารชุดแล้ว จึงถือว่า มีเงินได้จากการชิงโชคแล้ว จึงนำเงินได้นั้นไปคำนวณเสียภาษีเงินได้บุคคลธรรมดาของปีที่ได้รับโอนกรรมสิทธิ์ในอาคารชุด จึงขอทราบว่า ความเห็นดังกล่าวถูกต้องหรือไม่
     
แนววินิจฉัย : กรณีนางสาว ก. ได้รับรางวัลอาคารชุด จากการชิงโชคตามโครงการของศูนย์การค้าสยามฯ จากบริษัท A โดยได้ชำระภาษีเงินได้หัก ณ ที่จ่าย ให้แก่บริษัท A จำนวน ๓๓๐,๐๐๐.๐๐ บาท พร้อมลงลายมือชื่อในใบเสร็จรับเงินแสดงว่า ได้รับเงินจากบริษัท A จำนวน ๖,๖๐๐,๐๐๐.๐๐ บาท เมื่อวันที่ ๘ กันยายน ๒๕๕๓ โดยที่นางสาว ก. ยังมิได้รับรางวัลแต่อย่างใด เนื่องจากรางวัลที่เป็นอาคารชุดอยู่ระหว่างการก่อสร้าง โดยมีสัญญาระบุว่า บริษัท B ตกลงมอบกรรมสิทธิ์ห้องชุดและจะทำการก่อสร้างและดำเนินการจดทะเบียนอาคารชุด เพื่อออกหนังสือกรรมสิทธิ์ห้องชุดให้แล้วเสร็จในเดือนธันวาคม ๒๕๕๔ จากกรณีดังกล่าว บริษัท A ในฐานะผู้จ่ายเงินได้ มีหน้าที่ต้องหักภาษีเงินได้ ณ ที่จ่าย เมื่อมีการจ่ายรางวัลให้แก่นางสาว ก. ดังนั้น เมื่อบริษัท B เจ้าของกรรมสิทธิ์ห้องชุดในโครงการอาคารชุด ผู้สนับสนุนโครงการส่งเสริมการขายของศูนย์การค้าสยามฯ ยังมิได้โอนกรรมสิทธิ์ในอาคารชุด ซึ่งเป็นรางวัลจากการชิงโชคให้แก่นางสาว ก. บริษัทAจึงไม่มีสิทธิหักภาษีเงินได้ ณ ที่จ่าย แต่อย่างใด สำหรับภาษีเงินได้หัก ณ ที่จ่าย ที่นางสาว ก. ได้ชำระไปเป็นจำนวนเงินเกินกว่าที่ต้องเสียหรือที่ไม่มีหน้าที่ต้องเสียนั้น นางสาว ก. มีสิทธิยื่นคำร้องขอคืนภายในเวลา ๓ ปีนับแต่วันสุดท้ายแห่งกำหนดเวลายื่นรายการภาษีตามที่กฎหมายกำหนด ตามมาตรา ๒๗ ตรี แห่งประมวลรัษฎากร อย่างไรก็ตาม เมื่อบริษัท A จ่ายเงินรางวัลโดยโอนกรรมสิทธิ์ในอาคารชุดดังกล่าวให้แก่นางสาว ก. บริษัท A มีหน้าที่ต้องหักภาษีเงินได้ ณ ที่จ่าย ในอัตราร้อยละ ๕.๐ ตามข้อ ๙(๑) ของคำสั่งกรมสรรพากรที่ ท.ป.๔/๒๕๒๘ฯ ลงวันที่ ๒๖ กันยายน พ.ศ. ๒๕๒๘ และนางสาว ก. ต้องนำเงินรางวัลจากการชิงโชคดังกล่าว ไปรวมคำนวณเป็นเงินได้พึงประเมินเพื่อเสียภาษีเงินได้บุคคลธรรมดาในปีภาษีที่ได้รับรางวัลนั้น ตามมาตรา ๕๖ แห่งประมวลรัษฎากร
     
เลขตู้ :

74/37889